Thursday, July 30, 2009

พฤติกรรมการลวนลามทางเพศเล็กๆน้อยๆ ส่งผลกระทบถึงประสบการณ์ของผู้หญิง ที่มีต่อสถานที่ทำงาน

Mild Sexual Harassment Impacts Women'S Experience of the Workplace
พฤติกรรมการลวนลามทางเพศเล็กๆน้อยๆ ส่งผลกระทบถึงประสบการณ์ของผู้หญิง ที่มีต่อสถานที่ทำงาน
โดย
Kimberly T. Schneider, Ph.D.

นักวิจัยเปิดเผยผลจากการศึกษาพบว่าการลวนลามทางเพศเล็กๆน้อยๆ เช่นการใช้คำติเตียนที่ไม่ค่อยไพเราะ หรือ การเล่าเรื่องตลกในเชิงเสียดสีทางเพศ ในระยะยาวนั้นสามารถเป็นต้นเหตุที่สำคัญที่ทำให้ผู้หญิงต้องทนทุกข์ทรมานกับการต่อสู้กับสภาวะความเครียดของตนเอง

เราพบว่า ผู้หญิงที่ได้รับการล่วงละเมิดทางเพศแม้เพียงเล็กๆน้อยๆ เช่นการยกเอาเรื่องเพศมาพูดคุยให้เป็นประเด็นที่ทำให้รู้สึกอึดอัด มักมีสภาวะทางสุขภาพจิตที่ถดถอย และมีทัศนคติต่อการทำงานที่แย่ลงเมื่อเปรียบเทียบกับผู้หญิงที่ไม่ต้องเผชิญกับพฤติกรรมในลักษณะดังกล่าว ดร.คิมเบอร์ลี่ ชไนเดอร์ นักจิตวิทยาจาก มหาวิทยาลัยเท็กซัส ในฐานะหัวหน้าทีมวิจัยร่วมกับ ดร.ซูซาน สวอน จาก มหาวิทยาลัยเยล และ ดร.ลูอิส ฟิตเจอรัลด์ จากมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ เออร์แบนา-แชมเปญจน์

ทีมวิจัยทำการศึกษาผลกระทบจากพฤติกรรมการลวนลามทางเพศที่ผู้หญิงต้องเผชิญจากสภาพแวดล้อมในอาชีพการงานที่แตกต่างกัน กลุ่มตัวอย่างที่เข้าร่วมการศึกษาครั้งนี้ประกอบไปด้วย ผู้หญิงที่ทำงานในภาคเอกชนจำนวน 447 คน และ มีจำนวน 300 คนเป็นกลุ่มพนักงานหญิงซึ่งทำงานในมหาวิทยาลัย กลุ่มตัวอย่างทั้งหมดได้ถูกสอบถามถึงความถี่ที่พวกเธอต้องเผชิญกับพฤติกรรมในเชิงเสียดสีทางเพศ การใช้คำพูดที่หยาบโลน และ พฤติกรรมการแทะโลมทีทำให้พวกเธอรู้สึกอึดอัด (เช่น การถูกเนื้อต้องตัว การโอบกอด การแสดงความเป็นกันเองโดยใช้มือถูไถตามบางส่วนของร่างกาย หรือ การพยายามคะยั้นคะยอชวนไปออกเดท)

กลุ่มตัวอย่างยังถูกถามเพิ่มเติมถึงพฤติกรรมที่ใกล้เคียงในรูปแบบอื่นๆ ว่าเกิดขึ้นบ่อยเพียงใด เช่น การได้รับข้อเสนอทางเพศเพื่อเป็นข้อแลกเปลี่ยนกับการถูกข่มขู่ให้ออกจากงานหรือสัญญาว่าจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งในการทำงาน

ท้ายสุด ผู้วิจัยได้ถามถึงความรู้สึกพึงพอใจต่อตัวงานของพวกเธอ ความพอใจที่มีต่อเพื่อนร่วมงาน ผู้บังคับบัญชา และ ความถี่ของการลาป่วย การมาทำงานสาย หรือ การที่ไม่อยากจะสุงสิงกับใครๆในที่ทำงาน

ผู้หญิงที่ต้องเผชิญกับพฤติกรรมการคุกคามทางเพศที่ไม่รุนแรง เช่น การพูดจาเสียดสีทางเพศ ในความถี่ในระดับปานกลางถึงสูงมาก มักมีความรู้สึกไม่พึงพอใจในงานที่พวกเธอทำอยู่ และยิ่งไปกว่านั้นยังต้องทนทุกข์ทรมานกับการทึ่พวกเธอต้องเผชิญกับสภาวะความเครียดของตนเอง มากกว่ากลุ่มผู้หญิงที่ไม่เคยได้รับการปฏิบัติในลักษณะดังกล่าว

ดร.ชไนเดอร์ กล่าวว่า สิ่งที่เราเรียนรู้ได้จากการศึกษาครั้งนี้บอกว่า แม้พฤติกรรมดังกล่าวจะดูเหมือนเป็นเพียงเรื่องเล็กๆน้อยที่สามารถเกิดขึ้นได้ หากแต่มันเกิดขึ้นจนบ่อยในระดับหนึ่งมันก็เพียงพอที่จะส่งผลกระทบในทางลบต่อผู้ที่ถูกกระทำ

มันไม่มีความจำเป็นตรงไหนเลยที่ผู้หญิงจะต้องโดนบีบบังคับให้จำยอมกับสถานการณ์และพฤติกรรมดังกล่าว และต้องทำให้พวกเธอรู้สึกแย่ๆกับงานของตนเอง ทางคณะผู้ศึกษาขอเสนอแนะ ผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการบริหารจัดการทั้งหลายว่าไม่ควรจะละเลยหรือเพิกเฉยหากมีการร้องเรียนในเรื่องการคุกคามทางเพศจากพนักงานในองค์กรของตนเอง ถึงแม้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจะดูเหมือนเป็นกรณีเล็กๆน้อยๆ ก็ตาม หากแต่ว่าสำหรับพนักงานผู้เป็นเป้าหมายของพฤติกรรมดังกล่าวนั้น ถือว่าเป็นเรื่องรุนแรงอย่างยิ่งในฐานะผู้ถูกกระทำ

เอกสารอ้างอิง:
"Job-Related and Psychological Effects of Sexual Harassment in the Workplace: Empirical Evidence From Two Organizations"by Kimberly T. Schneider, Ph.D., University of Texas at El Paso,Louise F. Fitzgerald, Ph.D., University of Illinois at Urbana-Champaign & Suzanne Swan, Ph.D., Yale University in Journal of Applied Psychology, Vol. 82, No. 3.

ข้อมูลจาก สมาคมจิดวิทยาแห่งอเมริกา วอชิงตัน ดีซี
ต้นฉบับออกเผยแพร่ครั้งแรกเมือวันที่
26 พฤษภาคม 2541
ปรับปรุงข้อมูลโดย ดร.มาลีน มาฮิว

ถอดความโดย น้ำผึ้ง ปทานุคม (B.Sc., MBA, MSCP) โดยได้รับอนุญาติเป็นลายลักษณ์อักษรโดย Marlene M. Maheu, Ph.D.(ดร.มาลีน มาฮิว) จาก SelfhelpMagazine จากต้นฉบับบทความภาษาอังกฤษ:

No comments: